ME ME ^^"

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

จิตใจในการบริการของพนักงาน

ในการอบรมด้านการบริการให้แก่พนักงานนั้น โรงแรมที่มีระดับจะเน้นในเรื่องของ " จิตใจในการบริการ" เป็นพิเศษ โรงแรมบางแห่งจะอบรมจิตใจในการบริการโดยการให้พนักงานอยู่ร่วมกันในหอพัก หากจะทำงานบริการมีความสำคัญยิ่งกว่าเทคนิคในการบริการเสียอีก น้ำใจไมตรีเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคนแปลกหน้าที่ได้รับในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว ต่างถิ่นต่างแดน เป็นสิ่งที่น่าประทับใจยิ่ง ฉะนั้นการอบรมให้พนักงานมีจิตใจในการบริการจึงควรมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

แขกมักจะพูดกับพนักงานที่ยกของให้ว่า "เหนื่อยหน่อยนะ" แทนที่จะกล่าวกับ พนักงานบริการด้านธุรการ ทั้งนี้เพราะการทำงานของพนักงานยกของจะทำให้เกิดความรู้สึกว่ามีความจริงใจ ทำให้รู้สึกประทับใจมากกว่า พึงระลึกเสมอว่าตราบใดที่จะทำงานอยู่จะละทิ้งจิตใจในการบริการไม่ได้เป็นอันขาด

การบริการที่ดีเยี่ยมเกิดจากจิตใจในการบริการร่วมกับการฝึกฝนเทคนิคในการบริการ ที่ว่าจิตใจในการบริการหมายถึง

1. ทำตนให้สนุกกับงานบริการ

ไม่ว่าจะเข้ามาทำงานในโรงแรมหรือภัตตาคารด้วยความบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม เมื่อคิดจะยึดอาชีพนี้ตลอดไปก็ต้องทำตนให้สนุกกับงานดังกล่าว

2. แขกคือพระราชา พนักงานคือคนรับใช้

พนักงานบริการในโรงแรมจะต้องจดจำไว้เสมอว่า "แขกคือพระราชา" ความคิดที่ว่าแขกก็คือคนเราเองก็เป็นคน เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดความสับสนระหว่างการเป็นแขกกับพนักงานบริการ "แขกจะต้องถูกต้องเสมอ" เป็นความคิดที่ถูกต้องในการให้บริการของพนักงานโรงแรม ในแต่ละวันจะต้องพบแขกจากทั่งสารทุกสารทิศ บางครั้งก็ยากที่จะเลี่ยงปัญหาความวุ่นวาย สับสนที่น่าปวดหัว แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามต้องไม่ลืมกฎที่ว่า "แขกจะต้องถูกต้องเสมอ"

3. ซื่อสัตย์มีน้ำใสใจจริง

การทำธุรกิจใด ๆ ก็ตามถ้าหากไม่มีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าแล้ว ถึงแม้ว่าธุรกิจนั้น จะไปได้ดีในระยะแรกแต่ก็ไม่อาจยืนยาวไปได้ตลอด เพราะในที่สุดก็จะเสียลูกค้าไป ยกตัวอย่างเช่น กิจการขายสินค้าพื้นเมืองตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ถ้าหากสินค้านั้นน้ำหนักไม่ครบถ้วนหรือคุณภาพไม่ดี แม้ว่าจะขายดีในระยะแรกแต่สุดท้ายก็ต้องปิดร้านเพราะลูกค้าหายหมด แต่กิจการที่ใช้ความมุมานะเป็นเวลาหลายปีโดยยึดหลักที่ว่า "ลูกค้าสำคัญที่สุด" บวกกับการจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง หรือทำอาหารที่มีรสชาติดีเยี่ยม ย่อมเจริญรุ่งเรือง ขึ้นไปเรื่อย ๆ

งานบริการของโรงแรมหรือภัตตาคารก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากเป็นกิจการที่เพียบ - พร้อม และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ย่อมประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างเรื่องเงินค่าทิป พนักงานบริการที่ยกกระเป๋าเดินทางจนเหงื่อไหลไคลย้อย หรือวิ่งฝ่าสายฝนเพื่อเรียกรถแท็กซี่ให้แขก ย่อมจะทำให้แขกเกิดความรู้สึกอยากจะให้สินน้ำใจเป็นการตอบแทน ตรงกันข้ามถ้าพนักงานบริการทำงานอย่างขอไปที ซ้ำยังโยนเหรียญในมือไปมาเป็นการเตือนให้แขกจ่ายค่าทิป แขกย่อมไม่อยากทิปให้เลย บางคนไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการหรือพนักงานก็ตามคิดว่าแขกเป็นพวกโง่เง่า ความจริงแล้วแขกไม่ได้โง่อย่างที่คิดหรอก ถ้าหากใครก็ตามคิดว่าแขกเป็นคนโง่ สักวันหนึ่งจะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน

4. จดจำชื่อและหน้าตาของแขกไว้ให้ดี


การจดจำชื่อและหน้าตาของแขกเป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งในการบริการเพราะจะช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้น ทำให้แขกรู้สึกเป็นกันเอง และยังเป็นการแสดงน้ำใจต่อแขกด้วย นอกจากนี้การจำชื่อและใบหน้าของแขกก็เหมือนกับการบอกแขกว่า " โปรดระลึกถึงชื่อและใบหน้าของพวกเราด้วย" นับว่าเป็นวิธีที่ได้ผลยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น: