ME ME ^^"

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

การปฏิบัติตนของพนักงานโรงแรม

1. ผม

พนักงานชาย ไม่ควรไว้ผมยาว ต้องหวีผมให้เรียบร้อย อย่าให้มีรังแคหล่นตามไหล่ ไม่ควรไว้จอนผมยาวเกินไปแม้จะมีแฟชั่นผมยาวก็ไม่ควรไว้ พนักงานโรงแรมจะต้องทำตนให้แลดูสะอาดและสวยงามอยู่เสมอ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับบริหารยิ่งจะต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง พนักงานหญิง จะต้องระวังไม่ให้เส้นผมหรือรังแคติดตามตัว ไม่หวีผมต่อหน้าผู้อื่น หรือปล่อยให้ผมยุ่ง โดยทั่วไปแล้วไม่ควรย้อมผมเพราะสีผมตามธรรมชาติจะดูมีเสน่ห์น่าดูกว่า

2. ใบหน้า

ไม่ว่าพนักงานหญิงหรือชาย จะต้องระวังรักษาความสะอาดของใบหน้า ผิวพรรณ เปล่งปลั่ง อารมณ์แจ่มใส เกิดขึ้นได้เพราะสุขภาพแข็งแรง และรับประทานอาหารถูกหลักโภชนา การ พนักงานชายไม่ควรไว้หนวด รักษาอนามัยในช่องปากให้ดี อย่าให้มีกลิ่นปาก พนักงานหญิงควร แต่งหน้าบาง ๆ หากแต่งหน้าเข้มเกินไปจะทำให้เสียบุคลิก ต้องรู้จักเลือกสีของลิปสติค และใช้อย่างเหมาะสม พนักงานหญิงที่มีอายุก็ยังต้องแต่งหน้าบาง ๆ ไม่ควรงดแต่งหน้าอย่างสิ้นเชิง การใช้ อายชาโดว์ การเขียนขอบตา ควรแต่งให้เหมาะสม บางทีอาจปรึกษากับช่างเสริมสวยของโรงแรม เรื่องกลิ่นปากและกลิ่นตัวนั้น บางครั้งเจ้าตัวอาจไม่รู้ ควรจะคอยเตือนซึ่งกันและกัน ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรงอย่างหัวหอม กระเทียม ในช่วงก่อนและระหว่างการทำงาน ระหว่างการเข้าเวรไม่ควรใช้เครื่องประดับที่หรูหราราคาแพงอย่าง ต่างหู แหวน กำไล หรือสร้อยคอ การใช้เครื่องประดับที่มีความหมายเป็นพิเศษอย่างแหวนแต่งงาน หรือของที่ระลึก ควรขออนุญาตหัวหน้าก่อน ตามหลักทั่วไปแล้วทางโรงแรมจะไม่ให้ผู้ที่ทำงานในแผนกบริการสวมแว่นตา หรือ หากจำเป็นจริง ๆ ไม่ให้ใช้แว่นกระจกสี

3. เครื่องแบบ

รักษาเครื่องแบบของโรงแรมให้อยู่ในสภาพที่ดีเสมอ และใส่เข้าเวรตามระเบียบ แขกจะรู้ว่าพนักงานของโรงแรมเป็นอย่างไรก็ดูจากเครื่องแบบที่สวมใส่ ก็เช่นเดียวกับที่พนักงานทราบถึงรสนิยมและนิสัยใจคอของแขกที่มาพัก โดยดูจากการแต่งตัวของแขกนั่นเอง เสื้อผ้าจะต้องรีดให้เรียบร้อย ปัดให้สะอาดอยู่เสมอ เครื่องแบบของโรงแรมอาจจะไม่ทันสมัย แต่พนักงานของโรงแรมต้องสวมใส่ให้ เหมือน ๆ กัน จึงต้องห้ามไม่ให้แก้ไขดัดแปลงเครื่องแบบของตนตามใจชอบ การสวมเครื่องแบบที่เหมือนกันจะทำให้แลดูเป็นระเบียบ มีเอกลักษณ์เฉพาะ บางคนอาจรู้สึกว่าการใส่เครื่องแบบจะทำให้ดูขัดเขิน แต่แขกที่มาพักจะไม่คิดเช่นนั้น ตรงกันข้ามแขกกลับจะรู้สึกขัดหูขัดตากับพนักงานที่ใส่กางเกงขาลีบ หรือคับรัดรูปมาทำงาน

4. เสื้อและอื่น ๆ

ถ้าหากคอเสื้อของพนักงานแผนกอาหารประจำโรงแรมดูสกปรกอย่างเห็นได้ชัด จะทำให้พลอยรู้สึกว่าอาหารก็คงไม่สะอาดไปด้วย เพราะฉะนั้นจะต้องจำไว้ว่าความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยทั่วไปทางโรงแรมจะจ่ายเครื่องแบบให้คนละสองสามชุดเท่านั้น จะใช้ข้ออ้างที่ว่าเครื่องแบบมีน้อย ซักรีดไม่ทันไม่ได้ เพราะจะเป็นผลเสียต่อตนเอง จะต้องรักษาความสะอาดของคอเสื้อและแขนเสื้อให้ดี เน็คไทต้องไม่สกปรกเปรอะเปื้อน นอกจากนี้พนักงานทั่วไปหากใส่เสื้อผ้าที่ดูเรียบร้อย ไม่มีลวดลาย ใช้สีสันกลมกลืนกันจะดีกว่าใส่เสื้อผ้าที่หรูหราเกินไป พนักงานในห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยง จะได้รับแจกหูกระต่าย ควรใช้ตามกำหนดไว้ ป้ายชื่อจะต้องติดไว้ในตำแหน่งที่กำหนด พนักงานทุกคนควรจะรู้สึกภูมิใจในชื่อของตนเอง และควรรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ติดป้ายชื่อ คงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากหากรู้สึกอับอาย หรือไม่อยากติดป้ายชื่อตัวเอง

5. ถุงเท้า

พนักงานชายต้องใช้ถุงเท้าสีดำหรือสีน้ำเงินเข้ม ไม่ควรใช้ถุงเท้าบางหรือถุงเท้าที่แพง หรูเกินไป และต้องเปลี่ยนถุงเท้าทุกวัน พนักงานหญิงควรใส่ถุงน่อง โดยใช้สีตามที่กำหนด นอกจากนี้จะต้องไม่ให้กระโปรงชั้นในโผล่พ้นชายกระโปรงออกมา พนักงานหญิงอาจต้องใช้หมวกขลิบลูกไม้ และผ้ากันเปื้อน ให้ถูกต้องตามระเบียบและต้องรักษาความสะอาดเสมอ

6. อื่น ๆ

พนักงานหญิงจะใช้ยาทาเล็บได้ก็เฉพาะชนิดที่ไม่มีสีหรือชนิดใส สีไม่ฉูดฉาด และเมื่อใช้แล้วก็ควรรักษาให้ดี ไม่ปล่อยให้สีลอกหลุดหรือซีดจาง เจ้าหน้าที่โรงแรมทุกคนจะต้องสวมรองเท้าที่ผ่านการทำความสะอาดแล้วเป็นประจำ นอกจากบางแผนกทั่วไปควรสวมรองเท้าสีดำแบบธรรมดา ห้ามใช้รองเท้าสีชา สีแดง หรือ สีเทา จะเห็นได้ว่าการเป็นพนักงานโรงแรมนั้นไม่มีอิสระเลย ยิ่งเป็นโรงแรมชั้นหนึ่ง มีระดับ แล้วยิ่งเข้มงวดเรื่องเครื่องแต่งกาย และการปฏิบัติตัวของพนักงานเป็นพิเศษ ผู้ที่ไม่เคยชิน อาจรู้สึกไม่ชอบระเบียบกฎเกณฑ์เหล่านี้ แต่ทั่วไปแล้วเมื่อทำงานไปได้สักหนึ่งถึงสองปีก็จะเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ และมักพูดอวดกฎระเบียบเหล่านี้ให้ผู้อื่นรับรู้ กฎระเบียบเหล่านี้ดูผิวเผินอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญอะไร แต่ความเป็นจริงก็คือการให้ความสำคัญต่อการรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของตน นั้นเอง

นอกจากนี้โรงแรมโดยทั่วไปจะมีระเบียบกำหนดเครื่องแบบให้พนักงานสวมใส่ในเวลางาน ซึ่งมักจะเป็นสีขาวเหมือนกันหมด แต่โรงแรมบางแห่งในสหรัฐอเมริกา เช่น เจ้าหน้าที่ประจำออฟฟิศ จะสวมเสื้อเชิ้ตสีต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา และส่วนใหญ่มักจะเป็นเสื้อผ้า ที่ตนชอบ เชื่อว่าต่อไปคงจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปตามแนวนี้ ในเรื่องนาฬิกาก็มีข้อควรสนใจบางประการ บางทีแขกที่มาพักอาจใส่นาฬิกาญี่ปุ่นอย่างไซโก้ ซิติเซ็น ฯลฯ ในขณะที่พนักงานโรงแรมกลับใส่นาฬิกาโรเล็กซ์ ดังนั้นในคู่มือการทำงาน โรงแรมบางแห่งจึงระบุให้พนักงานใช้ของใช้ที่พื้น ๆ หากจะใช้ของที่แพงกว่าแขกทั่วไปก็ตาม ต้องไม่ใช้อย่างเปิดเผย สรุปก็คือไม่ว่าโรงแรมจะหรูหราและทันสมัยเพียงไร แต่การทำให้แขกได้พักในสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยมนั้น อยู่ที่การอบรมพนักงานให้รู้จักหน้าที่ของตน

ไม่มีความคิดเห็น: