ME ME ^^"

วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

มารยาทในการกล่าวทักทายแขก

พนักงานโรงแรม พนักงานต้อนรับ บริกรจะต้องกล่าวทักทายแขกเมื่อแขกเดินเข้ามาในระยะ 1.5 เมตร พร้อมรอยยิ้มและสบตาภายใน 10 วินาที โดยพูดว่า “สวัสดีครับ/ค่ะ” พร้อมยกมือไหว้ให้ถูกต้องตามหลักการไหว้แบบไทย โดยในโรงแรมระดับหรู รวมถึงร้านอาหาร หรือภัตตาคารชั้นดี จะใช้เทคนิคสร้างความประทับใจด้วยการกล่าวทักทายและตามด้วยชื่อแขก “สวัสดีครับคุณ...” ยิ่งพนักงานจำชื่อแขกได้มากเท่าไร ยิ่งสร้างความประทับใจได้มากเท่านั้น หากเป็นภัตตาคารหรือโรงแรมที่มีลูกค้าชาวต่างชาติมาก ให้กล่าวทักทายเป็นภาษาของแขกชาวต่างชาติคนนั้น เช่น ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศษ สเปน ญี่ปุ่น จีน เกาหลี และควรกล่าวให้ถูกต้องตามหลักการทักทายของภาษานั้น ๆ ด้วย
ข้อควรระวังที่มักจะไม่กระทำกันคือ

•ห้ามเรียกชื่อแขกผิดเด็ดขาด หากไม่มั่นใจชื่อลูกค้าควรกล่าวทักทาย สวัสดีครับ/ค่ะ และยกมือไหว้ตามปกติเท่านั้น
•อย่ากล่าวทักทายเป็นภาษาต่างประเทศแล้วตามด้วยการไหว้แบบไทย เพราะเป็นการขัดกันทางวัฒนธรรม ถ้าจะยกมือไหว้ก็ควรกล่าวทักทายแบบไทย แต่ถ้าจะกล่าวทักทายเป็นภาษาต่างประเทศก็ควรตามด้วยการจับมือ ตามวัฒนธรรมตะวันตก
•อย่างไรก็ดี การที่ชาวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย เข้าร้านอาหารไทย พวกเขาย่อมต้องการการต้อนรับแบบไทย ๆ และการทักทายแบบไทยแท้มากกว่า
•ไม่สนใจแขก ไม่ทักทายแขก ให้แขกเดินหาโต๊ะเอง หรือแกล้งทำเป็นไม่เห็นแขก แสดงท่าทางกลัวหรือหลบแขกชาวต่างชาติ
•โบกมือหรือทำท่าล้อเลียนแขก แสดงความเป็นกันเองกับแขกมากเกินไปก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะพนักงานไม่ควรทำตัวเสมอแขก
•ทักทายแขกด้วยเสียงแผ่วเบาเกินไป อาจทำให้แขกไม่ได้ยิน หรือตะโกนทักทายจากระยะไกล อาจทำให้แขกตกใจ บางครั้งอาจเป็นการตะโกนข้ามศีรษะแขกท่านอื่น ซึ่งเป็นมารยาทที่ไม่เหมาะสม
•ใช้คำภาษาอังกฤษ ที่แสดงถึงการยกตนเสมอกับแขก เช่น Hi, Hello, How you? หรือ Good Morning Mr. เฉย ๆ โดยไม่ตามด้วยชื่อแขก ซึ่งอาจเกิดจากการจำชื่อแขกไม่ได้
การรับรองแขก หรือการให้บริการที่น่าประทับใจนั้น เริ่มตั้งแต่การสร้างความประทับใจครั้งแรก ดังภาษิตที่ว่า “You only have one chance to make a gook first impression” งานบริการที่ดีคือการสร้างความประทับใจครั้งแรกที่ได้พบ ดังนั้นควรเริ่มจากการกล่าวทักทายอย่างถูกต้องพร้อมด้วย รอยยิ้มที่งดงามตามแบบไทย

ไม่มีความคิดเห็น: