ME ME ^^"

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ประเภทของโรงแรม

หลายครั้งหลายหนที่หลาย ๆ ท่านจองโรงแรม หรือห้องพัก โดยไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าที่พักที่เราจองไปนั้นจัดเป็นโรงแรมหรือที่พักแบบไหน ? เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมบางที่ใช้ชื่อเรียกตัวเองว่า รีสอร์ท บางที่ก็ใช้เรียกตัวเองว่าเป็น โรงแรม ? แล้วมันแตกต่างกันอย่างไร ? จริงแล้วเขามีรูปแบบการแบ่งประเภทของโรงแรม โดยสามารถแบ่งได้หลากหลายรูปแบบ แต่ต่อไปนี้จะแบ่งตามจุดประสงค์ของโรงแรมให้ก่อน

โรงแรมธุรกิจ
โรงแรมประเภทนี้มักจะตั้งอยู่ในตัวเมือง หรืออยู่ภายในเขตธุรกิจ มีจุดประสงค์ให้บริการนักธุรกิจเป็นหลัก และนอกจากนั้นมักจะนิยมใช้เป็นที่จัดงานประชุม หรือ งานเลี้ยงสังสรรค์ หรือที่หลายท่านนิยมไปจัดงานแต่งงานกัน ภายในโรงแรมก็จะมีการบริการที่หรูหรา ทั้งที่พัก อาหาร และเครื่องดื่ม แต่ช่วงเวลาที่แขกจะเข้าพักมักจะเป็นช่วงการเข้าพักสั้น ๆ

โรงแรมสนามบิน หรือ โรงแรมท่าอากาศยาน
ตามชื่อเลยว่าป็นโรงแรมประเภทที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสนามบิน แขกที่เข้าพักจะเป็นพวกนักทัศนาจรที่มารอต่อเครื่องบิน ซึ่งบางทีต้องรอนานเป็น 10 ชั่วโมง การเข้าพักมักจะเป็นช่วงสั้น ๆ เช่นเดียวกัน ไม่ค้างคืนเกิน 1 วัน หรือในบางกรณีก็จะเป็นนักธุรกิจที่มาเข้าพักแบบโรงแรมธุรกิจก็เป็นได้

โรงแรมพักอาศัย
โรงแรมประเภทนี้ มักจะเป็นโรงแรมที่เปิดให้เข้าพักเป็นระยะเวลานาน ๆ 1 เดือนขึ้นไปหรือที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเรียกการเข้าพักแบบนี้ว่าแบบ Long Stay มีลักษณะคล้ายคอนโดมิเนียม หรือเซอร์วิส อพาทเม้นท์ ที่มีบริการแบบโรงแรม เพียงแต่ความหรูหราอาจไม่เทียบเท่า โรงแรมแบบนี้ แถว ๆ พัทยาจะมีเยอะมากโดยเฉพาะหาดจอมเทียน บางทีอยู่กันเป็นปี ๆ ก็มีที่สำคัญคือ ถูก !

โรงแรมเพื่อการพักผ่อน(รีสอร์ท)
อันนี้เป็นแบบที่เราคุ้นเคย เวลาเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามต่างจังหวัด โรงแรมประเภทนี้ในภูมิประเทศที่ดี ห้องพักมักจะแยกเป็นส่วน ๆ เป็นบ้านหรือหลังคาเรือนแยกต่างหากหรือในลักษณะที่เรานิยมเรียกกันว่า รีสอร์ท จะมีจุดขายคือเน้นความสวยงามของธรรมชาติเห็นหลัก ในโรงแรม หรือ รีสอร์ท จะมีกิจกรรมต่างๆมากมาย เช่น การปั่นจักรยาน เล่นกอล์ฟ ขี่ม้า เดินป่า สปา เพราะจุดประสงค์ของแขกที่เข้าพักโรงแรมประเภทนี้คือการพักผ่อน ระยะเวลาเข้าพักจึงมีระยะเวลาในช่วง 5-7 วัน การบริการจะเป็นแบบสบาย ๆ เป็นกันเอง

โรงแรมคาสิโน
อย่างเช่น โรงแรม เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ในลาส เวกัส โรงแรมประเภทนี้ ( อันนี้บ้านเรายังไม่มี ) จะมีบริการที่หรูหรามาก ห้องพักสวยงาม มีราคาแพง แขกที่เข้าพักจะเข้ามาเล่นการพนันเป็นส่วนใหญ่ โรงแรมประเภทนี้จะดึงดูดลูกค้าด้วยการพนัน ความบันเทิง แต่แม่แบบที่ชัดเจนคือลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา แล้วทำไมที่นั่นถึงได้ดังล่ะ ? เข้าใจหน่อยนะครับว่าที่ลาสเวกัสน่ะมันเป็นทะเลทรายล้วน ๆ ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง ผีชีวะ ภาคสาม คงพอจะนึกภาพออก รัฐบาลอเมริกาเขาฉลาดมาก ในเมื่อไม่ทรัพยากรอะไรเลยแล้วจะทำยังไงให้คนเข้าไปอยู่ ก็เลยเกิดไอเดียเรื่องการพนันเลยอนุญาตให้เปิดบ่อนเสรีได้ในรัฐนี้ คนก็เลยแห่กันเข้าไปอยู่ พัตนากันไปจนดังไปทั่วโลกอย่างที่เรารู้จักนั่นล่ะ

โรงแรมประเภทที่พักและอาหาร ( เกสต์เฮาส์ )
โรงแรมชนิดนี้จะเป็นโรงแรมที่มีเพียงห้องพักและอาหารเช้าเท่านั้น จำนวนห้องพักมีไม่มากและมักเป็นธุรกิจประเภทครอบครัว ประเภทลูกสาวเป็นพนักงานตอนรับ แม่เป็นคนทำอาหาร อะไรประมาณนั้น และไม่มีการบริการอะไรมากนัก ขอเพียงแค่มีที่นอนกับที่กินเป็นพอ ซึ่งเหมาะกับนักเดินทางที่มีงบที่จำกัด ราคาห้องพักย่อมเยา แขกส่วนหนึ่งก็ชอบเพราะมีความเป็นกันเองดี

โรงแรมบังกะโล
บังกะโล ที่เราคุ้นหู แต่สมัยนี้ค่อนข้างจะหายากหน่อย ยิ่งในแหล่งท่องเที่ยวดัง ๆ แล้วล่ะก็ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอยู่เลย เพราะเกือบทั้งหมดจะถูกดัดแปลงเป็นโรงแรมในแบบหรูหราเสียทั้งหมด โรงแรมบังกะดลชนิดนี้จะมีเพียงที่พักให้เช่าในราคาประหยัดมาก แต่จะไม่มีอาหารบริการให้บริการ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมมาเอง ซึ่งภายในบังกะโลจะมีพื้นที่สำหรับการทำอาหารจัดไว้ให้

โมเทล
เกิดขึ้นในประเทศอเมริกา ซึ่งนักเดินทางที่ต้องขับรถระยะไกล ๆ อย่างในหนังที่เราดู ขับรถข้ามรัฐกันข้ามวัน ข้ามคืน แล้วต้องการที่พักที่สามารถเอารถไปจอดได้ที่ห้องพักของตน แขกที่เข้าพักจะพักระยะเวลาสั้น ๆ เพียงข้ามคืน ส่วนใหญ่มักอยู่ริมทางหลวง แต่ในบ้านเรากลับพัฒนากลายมาเป็นโรงแรมม่านรูดในปัจจุบัน จริง ๆ อยากเขียนอธิบายต่อถึงคำนี้นะ แต่กลัวจะได้อารมณ์เกินไป เอาเป็นว่าเราเข้าใจคำว่าโมเทลกันแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: